วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552

"พิซซ่าเกาหลี"

เครื่องปรุง
-
แป้งสาลี 250 กรัม
-
น้ำ 210 มิลลิลิตร
-
ไข่ไก่ 4 ฟอง
-
กิมจิ 150 กรัม
-
กุ้งลวกตัวเล็ก 100 กรัม
-
ปูอัด 100 กรัม
-
น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.
ในชามผสมผสมแป้งสาลี น้ำ ไข่ กิมจิ กุ้งลวก ปูอัด ตีให้เข้ากัน
2.
นำกระทะโตชิบาเปิดไฟให้ร้อน ใส่น้ำมันลง แล้วนำส่วนผสมที่ผสมไว้เทลงไปทอดในกระทะ ประมาณ
4-5
นาทีหรือจนกระทั่งเหลืองกรอบดี แล้วนำตะหลิวแบนกลับด้านอีกข้างเพื่อทอดให้สุกทั้งสองด้าน
3.
ตักจัดใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้มแบบเกาหลี
น้ำจิ้มแบบเกาหลี
เครื่องปรุง
-
ซีอิ๊วคินซัน 5 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาล 1 ช้อนชา
-
พริกป่นแบบละเอียด 2 ช้อนชา
-
งาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
-
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ในชามผสมนำส่วนผสมทั้งหมดผสมรวมให้เข้ากัน ใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมพิซซ่าเกาหลี



"อาหารชะลอตาเสื่อม"


"ดวงตา" จัดเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของร่างกาย แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนอย่างมาก ปัจจัยที่กระตุ้นให้ตาเสื่อมเร็วขึ้นคือ อายุ สิ่งแวดล้อม อาหารการกินและโรคบางชนิดที่เช่นเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีภัยรอบๆตัวเราแสงอัลตร้าไวโอเลตจากแสงแดดเป็นแหล่งของอนุมูลอิสระที่ทำลายตาของเรา เป็นสาเหตุของต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม(macula degeneration) ซึ่งนำไปสู่สาเหตุของตาบอดในผู้สูงอายุในวัย 65 ปีขึ้นไป นอกจากแสงแดดแล้ว บุหรี่ และอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์ (สารต้านอนุมูลอิสระ)ต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม ปัจจัยดังกล่าวสามารถป้องกันได้โดยการใช้แว่นตากันแสงยูวี หรือสวมหมวกป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายดวงตา เลิกบุหรี่ หรือเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีผู้สูบบุหรี่ และบริโภคอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูงๆโรคของตาต้อกระจก โรคต้อกระจกเกิดจากโปรตีนในเลนส์ตาสลายตัวหรือเส้นใยของเลนส์ตาเกิดความเสื่อม ทำให้เลนส์ขุ่นมัวขึ้น แสงผ่านได้น้อย ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษาอาจทำให้ตาบอดได้โรคจอประสาทตาส่วนกลางเสื่อม เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุตาบอด ตัวจอประสาทตาส่วนกลางอยู่ในใจกลางของเรตินา (retina) ซึ่งเป็นจอรับภาพ เป็นส่วนที่มีความสำคัญที่สุดของตาที่ทำให้คนเราสามารถแยกแยะความละเอียดของสิ่งที่มองได้ เรตินายังเป็นส่วนที่สัมผัสกับออกซิเจนในร่างกายมากที่สุด และนอกจากนี้ในเรตินายังมีไขมันในปริมาณสูงทำให้ง่ายต่อการเกิดอนุมูลอิสระ จึงทำให้จอประสาทตาส่วนกลางเสื่อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่รวมภาพ ในที่สุดจะทำให้ตามัว ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาจทำให้ตาบอดในที่สุดอาหารชะลอตาเสื่อมอาหารประเภทผักและผลไม้มีสารอาหารที่ช่วยรักษาสุขภาพของดวงตาและลดอนุมูลอิสระที่จะทำลายเลนส์ตาคือ สารแอนติออกซิแดนท์ (วิตามินซี อี เบตาแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทิน สังกะสี และสารไบโอเฟลโวนอยด์) รวมทั้งไรโบเฟลวิน
- วิตามินอี ช่วยป้องกันปฏิกริยาการสลายตัวของกรดไขมันที่อยู่รอบ ๆ เลนส์ตา คนที่มีระดับวิตามินอีในเลือดสูงอาจลดความเสี่ยงการเกิดต้องกระจกถึง50%
- อาหารที่มีวิตามินซี
สูงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดต้อกระจกได้ วิตามินซีจะช่วยขจัดโปรตีนส่วนที่ถูกทำลายจากเลนส์ของดวงตา ป้องกันไม่ให้เกิดต้อกระจก คนที่เป็นโรคนี้มักจะมีระดับวิตามินซีในเลือดต่ำกว่าปกติ นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยการทำงานของวิตามินอี และแคโรทีนอยด์ด้วย ดังนั้นในแต่ละวันจึงควรรับประทานวิตามินซีให้ได้ 300 มิลลิกรัมขึ้นไป ซึ่งวิตามินซีในปริมาณนี้หารับประทานจากอาหารประจำวันได้ไม่ยาก
- แคโรทีนอยด์ (Carotenoid)
ประกอบไปด้วยเบต้าแคโรทีน ลูทีน (lutein) และซีแซนทิน (zeaxanthin) ไลโคพีน ทั้งหมดนี้ช่วยป้องกันเลนส์ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระเช่นกัน
- เบตาแคโรทีน
เป็นสารอาหารที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งช่วยในการมองเห็นในที่มืด เบตาแคโรทีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพตา ช่วยบำรุงรักษาดวงตา และป้องกันโรคตาหลายชนิด เช่น โรคต้อกระจก โรคตาบอดกลางคืน และยังช่วยให้ผิวเยื่อเมือกในส่วนต่างๆของร่างกายชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย
- ลูทีน และซีแซนทิน
เป็นสารแคโรทีนอยด์ที่มีสีเหลือง พบมากในพืชผักที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม เช่น ผักบุ้ง ผักกาดเขียว ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขม ลูทีนและซีแซนทินเป็นสารธรรมชาติที่พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพและจอประสาทตา ทำหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดและกรองแสงสีน้ำเงินที่เป็นตัวการสำคัญในการทำลายดวงตา ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดอนุมูลอิสระที่จะทำลายดวงตา ร่างกายจำเป็นที่จะต้องได้รับสารลูทีนจากอาหาร แต่สารซีแซนทินนอกจากจะได้จากอาหารส่วนหนึ่งแล้ว ร่างกายสามารถเปลี่ยนสารลูทีนในตาไปเป็นสารซีแซนทินได้ ดังนั้นผู้ที่บริโภคผักผลไม้หลายหลายสีมากเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อมได้
อย่างไรก็ตามการวิจัยยังพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระประเภทวิตามินซี อี และแคโรทีนอยด์ ในอาหารธรรมชาติให้ผลที่ดีกว่าการใช้วิตามินทั้ง 3 เสริม ดังนั้นนักวิจัยจึงแนะให้บริโภคผักและผลไม้ให้มากขึ้นเพื่อรีบสะสมสารต้านอนุมูลอิสระเสียแต่เนิ่น ๆ จะป้องกันอันตรายจากโรคตาเสื่อมตามวัยได้
- ไบโอเฟลโวนอยด์
พบมากในบูลเบอร์รีหรือบิลเบอร์รี องุ่นแดง ส้ม และแครนเบอร์รี ไบโอเฟลโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระคือสารแอนโธไซยานิดิน ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระทำอันตรายให้กับเลนส์ตาและสร้างความแข็งแรงให้กับสารคอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างบริเวณกระจกตา (Cornea) และเส้นเลือดฝอยในตา ปัจจุบันสารสกัดบิลเบอร์รีได้รับความนิยมมากรองจากลูทีน นอกจากจะช่วยป้องกันเลนส์ตาแล้วยังช่วยให้มองเห็นในที่มืดหรือที่มีแสงสลัวๆ ได้ชันเจน บิลเบอร์รีหรือบลูเบอร์รีสดวันละ 1/2 - 1 ถ้วยตวง ให้สารแอนโธไซยานิดินเท่ากับที่ร่างกายต้องการในการรักษาสุขภาพตา
- ไรโบเฟลวิน
เป็นวิตามินบีตัวหนึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะเดียวกันก็ต้องระวังการเสริมไรโบเฟลวินมากเกินกำหนดแทนที่จะช่วยกลับจะเป็นอันตรายต่อตาได้ เพราะจะเพิ่มความไวของดวงตาต่อการถูกทำลายด้วยแสงแดดได้- แร่ธาตุสังกะสี อาหารที่มีธาตุสังกะสีสูง เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ อาจมีผลในการป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตาได้เช่นกัน
- ระวังอาหารรสเค็มจัดหรืออาหารที่มีโซเดียมสูงโซเดียมเป็นส่วนประกอบของเกลือแกง อาหารที่มีโซเดียมสูงนอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงความดันโลหิตสูงแล้วยังอาจมีส่วนทำให้เกิดต้อกระจกได้ ระดับโซเดียมที่ต่ำในลูกตาจะป้องกันเลนส์ตาขุ่นฝ้า การรับประทานอาหารเค็มจัดจะทำให้ได้รับโซเดียมมากเกินควรจึงทำให้เกิดปัญหาการรักษาระดับโซเดียมในตาปัจจัยเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมที่จะทำลายเลนส์ตาและทำให้จอประสาทตาเสื่อมนั้นเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคผักและผลไม้อย่างหลากหลายเป็นประจำทุกวันนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมได้แน่นอนกว่าการเสริมวิตามินแล้วยังช่วยในการรักษาสุขภาพกายด้านอื่นๆ ป้องกันโรคเรื้อรังไม่ติดต่อมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"อาหารสำหรับโรคตับอักเสบ"

โรคตับอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิด เชื้อไวรัสจะทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันและทำลายเซลล์ตับ ในรายที่อาการไม่รุนแรงและได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ เซลล์ตับจะฟื้นตัวได้ แต่ถ้าอาการรุนแรง จะทำให้เซลล์ตับตาย เนื้อเซลตับที่ดีเหลือน้อยลง ทำให้ตับเกิดโรคตับแข็งได้การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบผู้ป่วยจำเป็นจะต้องนอนพักไม่ออกแรง มิฉะนั้นจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และใช้เวลารักษานานขึ้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับของเหลววันละ 3000-3500 มิลลิลิตร เพื่อป้องกันการขาดน้ำและจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นมีความอยากรับประทานอาหารมากขึ้น นอกจากนี้การได้รับโภชนาการเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้นและผู้ป่วยมีกำลังวังชามากขึ้น ผู้ป่วยที่มีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน จะค่อย ๆ ทุเลาขึ้นเองเมื่อพักผ่อนและรับประทานอาหารให้พอเพียง ผู้ป่วยบางรายเข้าใจว่าการดื่มน้ำหวานในปริมาณมาก ๆจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการรับประทานน้ำตาลมากๆจะทำให้น้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับ และอาจทำให้ตับโตได้

โภชนบำบัดสำหรับโรคไวรัสตับอักเสบอาหารที่ผู้ป่วยได้รับขึ้นกับระดับความรุนแรงของโรคแและโรคแทรกซ้อน สารอาหารที่สำคัญที่จะต้องดูแลสำหรับโรคตับอักเสบได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม (เกลือ) และ แอลกอฮอลล์โปรตีน จำเป็นต้องได้รับเพียงพอ วันละ 100-150 กรัม เพื่อการสร้างเซลล์ใหม่ของตับ และควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ในกรณีที่มีอาการรุนแรงเฉียบพลัน และระดับแอมโมเนียในเลือดสูง โปรตีนจะได้รับการจำกัดในระดับต่ำๆเช่นเดียวกับโรคตับแข็ง คาร์โบไฮเดรต ผู้ป่วยตับอักเสบต้องการคาร์โบไฮเดรตสูงประมาณ 300-400 กรัม/วัน เพื่อให้พลังงานพอเพียงกับที่ร่างกายต้องการและมีไกลโคลเจนสะสมเพียงพอ และช่วยให้ร่างกายได้นำโปรตีนไปใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อที่จำเป็นต่อร่างกาย คาร์โบไฮเดรตที่รับประทานควรเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดที่มีกากใยอาหารมากกว่าคาร์โบไฮเดรตประเภทน้ำตาล ไขมัน อาหารควรมีไขมันในปริมาณปานกลางวันละประมาณ 80-100 กรัม ไขมันจะช่วยเพิ่มรสชาดลดอาการเบื่ออาหารซึ่งมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคตับอักเสบ กรณีที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติในการดูดซึมไขมัน แพทย์จะให้ไขมันที่มีโครงสร้างของกรดไขมันสายสั้นปานกลาง เช่น ไขมันเอ็มซีที (MCT) เป็นระยะเวลาสั้นๆจนกว่าอาการจะดีขึ้นพลังงาน ผู้ป่วยโรคตับอักเสบจำเป็นต้องได้รับพลังงานสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะที่มีปัญหาทุพโภชนาการ ความต้องการพลังงานวันละประมาณ 2500-3000 กิโลแคลอรี เพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ชดเชยกับพลังงานที่สูงขึ้นเมื่อร่างกายมีไข้และเพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังเพิ่มขึ้นวิตามินและเกลือแร่ ร่างกายมีความต้องการวิตามินและเกลือแร่บางชนิดสูงขึ้น แพทย์จะทำการเสริมให้ผู้ป่วยตามความเหมาะสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในระยะที่รับการรักษา ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร จำเป็นที่ต้องให้อาหารเหลว อาจผสมอาหารทางการแพทย์เพื่อเพิ่มความเข้นข้นของสารอาหาร หรือให้รับประทานเสริมจนกว่าผู้ป่วยเริ่มมีความอยากอาหารมากขึ้นจึงเริ่มให้อาหารอ่อน เราสามารถนำผลไม้มาปั่นใส่นมและโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มโปรตีนและพลังงานดังตัวอย่างสูตรที่ให้ไว้ หลังจากที่หายแล้วก็ควรจะระวังดูแลรักษาสุขภาพตับให้แข็งแรง ดังที่ได้แนะนำไว้ในฉบับที่แล้วข้อแนะนำทางโภชนาการสำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ- รับประทานอาหารหลากหลายจากอาหารหลัก 5 หมู่- เลือกเนื้อลัวน ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ ปลา กุ้ง หอย ปู เป็นแหล่งของ โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 12 ไนอะซิน บี1ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม- ข้าว ขนมปัง ธัญพืชต่างๆ เป็นแหล่งของ คาร์โบไฮเดรต ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1และบี 2 ไนอะซิน และใยอาหาร- ผลไม้และผักต่างๆ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ(วิตามินเอ ซี และอี) ธาตุเหล็ก โฟเลท และใยอาหาร- นมและผลิตภัณฑ์นม เป็นแหล่งของ โปรตีน แคลเซียม วิตามินบี 2 ไนอะซิน โฟเลท วิตามินเอ วิตามินบี 12 และวิตามินดี- รับประทานอาหารให้ได้พลังงานเพียงพอแต่ไม่มากเกินไป โดยแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ (4-5) มื้อตลอดวัน- รับประทานอาหารโปรตีนให้เพียงพอเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้ตับสร้างเนื้อเยื่อใหม่- รับประทานผักและผลไม้หลากหลายมากขึ้นเพื่อให้ร่างการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ- เลือกอาหารที่มีวิตามินเอ และซีบ่อยขึ้น- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เพื่อป้องกันอันตรายต่อตับและช่วยให้ตับได้ฟื้นฟูสภาพ- จำกัดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง- รับประทานอาหารให้สมดุลกับพลังงานที่ใช้ตัวอย่างสูตรอาหารโปรตีนสูง พลังสูงส้มปั่นโปรตีนสูง สำหรับ 1 ที่ เครื่องปรุงโยเกิร์ตไขมันต่ำรสธรรมชาติ 3/4 ถ้วยตวง นมผงขาดมันเนย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำนำเครื่องปรุงทั้งหมดปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันจะได้เครื่องดื่มประมาณ 300 ซีซีคุณค่าทางโภชนาการพลังงาน 262 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 51 กรัม โปรตีน 11 กรัม ไขมัน 2 กรัม


"ข้าวหมกทะเลสเปน"



เครื่องปรุง
- น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
- หอมใหญ่สับละเอียด 2 หัว
- กระเทียมสับละเอียด 3 กลีบ
- พริกตุ้มแดง เขียวหั่นชิ้นยาว ๆ บาง ๆ 1 ลูก
- ข้าวสาร 200 กรัม
- หญ้าฝรั่นที่แช่น้ำแล้ว พอประมาณ
- ใบกระวาน 2 ใบ
- น้ำซุปไก่ (รสดี) 600 มิลลิลิตร
- เกลือ / พริกไทย พอประมาณ
- ปลาหมึกหั่นเป็นแว่น,กุ้ง, หอยแมลงภู่ 200 กรัม
- มะเขือเทศปอกเปลือก เอาเม็ดออกสับหยาบ 200 กรัม
- เมล็ดถั่วลันเตาในกระป๋อง พอประมาณ
- ผักชีฝรั่งสับ สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
1.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันมะกอกลงไป พอร้อนเทหัวหอม กระเทียม และพริกตุ้มลงไปผัดให้นุ่มแต่สียังไม่เปลี่ยน
2.ใส่ข้าวสารลงไปผัดจนกระทั่งข้าวสารเริ่มใส และน้ำมันเคลือบเมล็ดข้าวทุกเม็ด ใส่หญ้าฝรั่นและน้ำที่แช่ใบกระวานลงไปผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
3.ใส่ปลาหมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ มะเขือเทศ เมล็ดถั่วลันเตา ลงไปผัดในกระทะให้เข้ากัน
4.ลดไฟปิดฝาหุงจนกระทั่งสุกในกระทะ
5.เมื่อข้าวสุกแล้ว ตักใส่จานเสิร์ฟร้อน ๆ แต่งหน้าด้วยผักชีฝรั่งสับ.

"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำลูกชิ้นซีฟู้ด "

ส่วนผสม
- ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 150 กรัม
- ตะไคร้ 2 ต้น
-ข่า 3 แว่น
-ใบมะกรูด 2 ใบ
- พริกขี้หนูบุบ 5-8 เม็ด
- น้ำปลา
-น้ำมะนาว อย่างละประมาณ 1 1/2-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผาไม่หวาน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่าประมาณ 1 1/2 ถ้วย
- นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ลวกก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แล้วตักใส่ชามเตรียมไว้ ตักน้ำพริกเผาโรยหน้า ใส่ลูกชิ้นกุ้งหรือเสียบไม้ไว้ต้มน้ำให้เดือดใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนู รอให้เดือดสักครู่ ใส่น้ำปลา ตามด้วยนมข้นจืด ยกลงจากเตาแล้วจึงใส่น้ำมะนาว ชิมรสออกรสจัด ราดบนก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ ต้องกินร้อนๆ จึงอร่อย -ลูกชิ้นส่วนผสม เนื้อกุ้งชีแฮ้ตัวเล็กปอกเปลือกแล้ว 2 ถ้วย เนื้อปลาหมึกตัวเล็กหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย เนื้อปู 1/2 ถ้วย พริกไทยป่น น้ำปลาอย่างละเล็กน้อย วิธีทำปั่นเนื้อกุ้งในเครื่องปั่นจนละเอียด นำมาผสมเนื้อปลาหมึก เนื้อปู ใส่พริกไทยป่น น้ำปลา คลุกให้เข้ากัน ปั้นเป็นลูกกลมแล้วทอดให้สุก

"ไข่สก็อต"


::::::เครื่องปรุง::::::
-ไข่ไก่ต้มสุก 3 ฟอง
-เนื่อหมูบด 1/2 ถ้วยตวง
-เกลือป่น 1 ช้อนชา
-พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
-แป้งสาลี 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
-เกล็ดขนมปัง 1/4 ถ้วยตวง
-ไข่ไก่ 1 ฟอง (ดิบ)
::::::วิธีทำ::::::
1. ปอกเปลือกไข่ที่ต้มสุกแล้ว
2. ผสมเนื้อหมูบด เกลือ พริกไทย แป้งสาลี 1 ช้อนโตีะ แล้วแบ่งเป็น 3 ส่วน
3. นำหมูที่ผสมไว้มาห่อไข่ต้มแล้วคลุกด้วยแป้งสาลี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
4. ตอกไข่ดิบ แล้วนำไข่ต้มจากข้อ 3 ลงเคล้าให้ทั่ว แล้วนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง
5. ใส่น้ำมัน ตั้งไฟกลางๆ พอน้ำมันร้อน จึงนำลงไปทอดให้สุกจนเป็นสีน้ำตาล
6. เวลาเสริ์ฟ ผ่าไข่ออกให้สวยงามและเสริ์ฟกับซอสพริก

"ไข่ตุ๋นนมสด"

เครื่องปรุง
-ไข่ไก่ 3 ฟอง
-ต้นหอมซอย
-ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
-น้ำปลา
- พริกไทยป่นเล็กน้อย
-หอมแดงซอย 1 - 2 หัว
-น้ำสะอาด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
-นมสด 3 - 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำไข่มาตอกใส่ภาชนะทนความร้อน และตีไข่ให้ฟู จึงใส่ซีอิ๊วขาว น้ำปลา พริกไทยป่น หอมแดงซอย น้ำสะอาด และนมสด จากนั้นตีให้เข้ากัน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย แล้วจึงนำใส่ลังถึง ใส่น้ำลงในลังถึงไปพอประมาณ เมื่อน้ำเดือด จึงนำถ้วยไข่ตุ๋นที่เตรียมไว้วางลงแล้วปิดฝาให้สนิท นึ่งต่อประมาณ 10 - 15 นาที ใช้ช้อนส้อมจิ้มดู ถ้าไข่ไม่ติดช้อนแสดงว่า

"ก๋วยเตี๋ยวรถลาว"


พวงมาลัยซ้าย มาจากลาวชัวร์ และก็ตรงดิ่งเข้าไปสั่งเกี๋ยวเตี๋ยวและคุยกับพี่เขาทันทีพี่เขาบอกว่าเจ้านายมีธุระกิจที่ประเทศลาวเลยซื้อรถคันนี้มาจากลาว และจากสภาพปัจุบันเศรษฐกิจไม่ดีเจ้านายเลยให้พี่เขามาขายเกี๋ยวเตี๋ยว และทำอย่างไรคนจะสนใจและมีจุดเด่น เลยได้รถทะเบียนลาวคันนี้ล่ะเป็นจุดขาย ตอนแรกก็นึกไปว่าสงสัยคนลาวจะเข้ามาขายเกี๋ยวเตี๋ยวแข่งกับคนไทยหรือเปล่า แฮ่ๆ ที่แท้พี่เค้าก็คนไทยแต่ได้ไอเดียแปลกแหวกแนวแค่นั้นเอง ร้านพี่เขาอยู่เรียบด่วนรามอินทรา ลงสพานข้ามแยก เกษตร-นวมินทร์นิดหน่อยก็เลี้ยวซ้ายเข้าไป รถคันนี้จะจอดอยู่ปากซอยพอดีใครอยากไปอุดหนุนก็เชิญได้ลองชิมมาแล้วรสชาติ ก็ถือว่า โอเคแค่ 20 บาทต่อชามเอง

"แนะนำร้านอร่อยในเยาวราช"

1.ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่วรจักร
ตรอกบ้านดอกไม้ ถ.วรจักร เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เป็นอาหารของคนจีนแต้จิ๋ว มีทั้งคั่วไก่และคั่วหมู ซึ่งต้องใช้เส้นใหญ่เท่านั้น โดยมีปลาหมึกกรอบและผักกาดหอมรองชาม ผัดเส้นให้สุกแห้งๆ และคั่วเร็วๆ ให้สุกกรอบ ใช้ไฟแรงและน้ำมันน้อย ราคา 35-45 บาท เปิด 17.00-23.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-2224-6644
2.ข้าวสวยโปนายพล
ปากซอยสวนมะลิ 1 เมนูเด็ด ข้าวสวยโป ข้าวหน้าเป็ดย่าง ราคา 30 บาทขึ้นไป เปิด 16.00-23.00 น. (หยุดวันพุธ) โทร.0-2224-7618
3.เนื้อวัวซุปเปอร์ยอดเยี่ยม
ซอยสวนมะลิ 1 ใกล้ร้านข้าวสวยโปนายพล เมนูเด็ด เนื้อวัวตุ๋น น้ำซุปหอมหวาน เนื้อนุ่มเนียน ราคา 30-40 บาท เปิด 18.00-22.30 น. (หยุดวันพุธ) โทร.0-2224-7618
4.นครสนุก ถนนหลวง
ตรงข้ามบริษัท วรจักรยนต์ หรือข้าง รพ.กลาง เมนูเด็ด ข้าวหมูแดง หมูกรอบ ราคา 30 บาท เปิด 08.00-15.00 น.หรือจนกว่าของจะหมด โทร.0-2222-2864
5.เหลาะงาทิ้น (พูนเลิศ) ถนนหลวง
(ใกล้ๆ ยาหอมปราสาททองโอสถ) เมนูเด็ด ข้าวหน้าไก่ ซึ่งขายมากว่า 50 ปี ราคา 25 บาท เปิด 10.00-18.00 น. (วันจันทร์ปิด 14.00 น.) โทร.0-2221-7105
6.นายโซว ถนนไมตรีจิตต์
ข้างสุกี้เฮ้าส์และวัดพลับพลาไชย เมนูเด็ด หอยทอดกระทะร้อน ออส่วน เผือกหิมะ ราคา 100 บาทขึ้นไป เปิด 11.00-14.00 น. และ 17.00-21.00 น.โทร.0-2221-1539
7.เซี้ย ตลาดปีระกาฝั่งเหนือ
เวิ้งนาครเขษม ถ.จักรวรรดิ เมนูเด็ด เกาเหลาเนื้อวัวไร้เทียมทาน เปิด วันจันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-14.00 น. โทร.0-2622-4765
8.หมี่หวานเจ๊เพ็ญ
ในตลาดปีระกาฝั่งใต้ เวิ้งนาครเขษม เมนูเด็ด หมี่หวาน อาหารโบราณที่นับวันจะหากินยากขึ้นทุกที มีทั้งแบบร้อนและเย็น ราคา 15 บาท เปิด 09.30-16.00 น. โทร.0-6086-4166
9.เนื้อตุ๋นเวิ้งนาครเขษม
ข้างตลาดปีระกา เวิ้งนาครเขษม ใกล้ร้านหมี่หวาน ขายมากว่า 50 ปี ขาประจำรู้จักกันในนาม เนื้อตุ๋นเจ๊ผอม เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และ เกาเหลาเนื้อตุ๋น เครื่องเคราครบครัน บางอย่างหากินที่อื่นไม่ได้ ราคา 40-50 บาท เปิด 09.00-16.00 น. โทร.0-2222-5057
10.ข้าวเสียโป
ปาก ซอยเจริญกรุง 19 เมนูเด็ด ข้าวเสียโป หรือ ข้าวเฉโป ซึ่งสูตรเดิมๆ มีเครื่องปรุงโปะหน้า 10 กว่าชนิด ปัจจุบันเหลือประมาณไม่ถึง 10 อย่าง ราคา 30-40 บาท เปิด 16.00-20.00 น. โทร.0-2869-5213
11.ข้าวแกงเจ๊กปุ้ย
ต้น ซอยมังกร ถ.เจริญกรุง แกงอร่อยทุกอย่าง แต่จานเด็ดที่สร้างชื่อมาตั้งแต่รุ่นพ่อคือ แกงกะหรี่เนื้อ (กาหรี่หงูบะ) และ แกงกะหรี่หมู (กาหรี่ตือบะ) กินกับพริกชี้ฟ้าหั่นแว่นและแตงกวา แนมด้วยกุนเชียง ราคา 20-50 บาท กินที่ร้านหรือใส่ถุงกลับบ้านก็ได้ เปิดทุกวันเวลา 16.00-21.00 น. โทร.0-2222-5229
12.ข้าวขาหมูนายโอ
ข้างวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) เข้า ถ.มังกรประมาณ 50 เมตรเศษๆ ขายมาเกือบ 30 ปี เมนูเด็ด ข้าวขาหมู ซึ่งใส่กุนเชียงที่อร่อยไม่มีใครเหมือน ราคา 20-40 บาท เปิด 07.00-14.00 น. โทร.0-2223-4006
13.ตือฮวนสองพี่น้อง

ซอยเจริญกรุง 21 เยื้อง สน.พลับพลาไชย 1-2 เมนูเด็ด ตือฮวน ข้าวเหนียวยัดไส้ เปิดเวลา 09.30-14.30 น. (หยุดวันพระ) โทร.0-2221-0443
14.บะหมี่จับกัง
ปาก ซอยเจริญกรุง 23 (ตรอกเจริญชัย 1) ขายมากว่า 30 ปีเมนูเด็ด บะหมี่หมูอบ ราคา 20 บาท เปิด 09.00-20.00 น. (หยุดทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน) โทร. 0-2222-6769
15.เซี่ยงกี่ข้าวต้มปลา
ซอยบำรุงรัตน์ (ตรอกม้าเก็ง) หลังโรงแรมแกรนด์ ไชน่า ปริ๊นเซส เปิด 17.00-23.00 น. เมนูเด็ด ข้าวต้มปลา เกาเหลาเนื้อปลา ราคา 200-300 บาท
16.ตือฮวนจุกบี้
ถนนบริพัตร ตลาดปีระกา เวิ้งนาครเขษม ใกล้เนื้อตุ๋นเจ๊ผอมและเซียะเกาเหลาเนื้อวัวไร้เทียมทาน และหมี่หวาน เมนูเด็ด ตือฮวนจุกบี้ เมนูที่หากินยากมาก ตือฮวนคือไส้ จุกบี้คือข้าวเหนียว ข้าวเหนียวผสมถั่วลิสงสุกคลุกเคล้าแล้วยัดใส่ในไส้หมู นึ่งจนสุก หั่นเป็นชิ้นๆ จิ้มซีอิ๊วดำหวาน เปิดทุกวัน 07.00-17.00 น.
17.นิวทายโหล้ง
ถนนทรงสวัสดิ์ (สามแยก) เยาวราช เมนูเด็ด ข้าวเหนียวหมูแดง อีหมี่ ข้าวราดหน้าไก่มลายู ขนมจีบทอดกรอบ ขายมากว่า 50 ปี ข้าวเหนียวหมูแดงเป็นตำรับกวางตุ้ง กินกับหมูแดง กุนเชียงกวางตุ้งและตับแก้ว ราดด้วยซีอิ๊วปรุงรส ราคา 30 บาท เปิด 11.30-21.30 น.(หยุดวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) โทร.0-22217546
18.ห้อยจ้อ
นภาพร ในตลาดเล่งบ้วยเอี้ย หรือตลาดใหม่ ใกล้ร้านพริกไทยง่วนสูน เมนูเด็ด ห้อยจ้อ ราคา 35-100 บาท เปิด 06.00-16.00 น. โทร.0-2221-1278
19.บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง
ตลาดเล่งบ้วยเอี้ย หรือตลาดใหม่ เมนูเด็ด ข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เกี๊ยว ราคา 30 บาทขึ้นไปเปิด 06.00-18.00 น. โทร.0-2623-1992
20.ก๋วยเตี๋ยวคั่ว
ปากซอยอิศรานุภาพ ด้าน ถ.เยาวราช ขายมากว่า 20 ปี เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เส้นนุ่มและหอมควันไฟ จากการผัดด้วยกระทะทองเหลือง ราคา 30 บาท เปิด 20.00-03.00 น.
21.แกงกะหรี่นายโย่ง
ถนนเยาวราช ฝั่งขวา ปากซอยอิศรานุภาพ หน้าธ.กสิกรไทย เป็นแกงกะหรี่สไตล์จีนกวางตุ้ง เมนูเด็ด แกงกะหรี่ หมู เนื้อ ราคา 25-50 บาท เปิด 09.00-14.00 น.และ 16.00-02.00 น. โทร.0-2221-9908
22.ขนมจีบหน้าวัดญวน
ถนนแปลงนาม หน้าประตูวัดมงคลสมาคม (วัดญวน) เจ้าของชื่อแป๊ะเซี้ยะขายอยู่บนรถเข็น ขายมาเกือบ 40 ปี เมนูเด็ด ขนมจีบแต้จิ๋ว ซึ่งขายได้วันละพันกว่าลูก เปิด 12.00-19.00 น. โทร.0-2223-7344
23.ข้าวพระรามลงสรง (ซาแต้)
ถนนแปลงนาม ใกล้ทางเข้าตลาดกรมภูธเรศ เมนูเด็ด ข้าวพระรามลงสรง ราคา 25- 40 บาท เปิด 13.30-19.00 น. (หยุดวันพุธ) โทร.0-9754-7548 พระรามลงสรงเป็นอาหารโบราณ ที่ประกอบด้วยผักบุ้งลวก เนื้อหมูลวก และน้ำพระรามลงสรงที่ปรุงด้วยเครื่องแกง และถั่วลิสง เป็นต้น
24.ข้าวต้มแปลงนาม 24 น.
ต้นถนนแปลงนาม ติดถนนเจริญกรุง มีกับข้าวให้เลือกกว่า 40 อย่าง เมนูเด็ดคือ ขาไก่น้ำแดง ซี่โครงหมูกรอบ มะระตุ๋นกระดูกหมู ราคา 15-20 บาท เปิดทุกวันตลอด 24 ชม. โทร.0-2623-0907
25.บะหมี่ปูสะพานพุทธ
ถนนราชวงศ์ หน้าบริษัท ขวานทอง เมนูเด็ด บะหมี่ปู ซึ่งใช้เนื้อปูเยอะ ราคา 20-150 บาท เปิด 17.00-20.30 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-1845-1315
26.ผัดไทย
เจ้าเก่าสำเพ็ง ปากซอยวานิช 1 ถ.ราชวงศ์ ข้าง ธ.กรุงศรีฯ สาขาราชวงศ์ เมนูเด็ด ผัดไทยสูตรดำเนินสะดวก เส้นเล็กแบบโบราณ รสชาติต่างจากเส้นจันทน์ และใช้ไข่เป็ด ขายมาเป็นรุ่นที่ 4 ราคา 25 บาท เปิด 18.30-23.00 น. (หยุดเสาร์-อาทิตย์)
27.กวยจั๊บนายเล็กอ้วน
ปากซอยเจริญกรุง 16 (ซ.อิศรานุภาพ) ติด ถ.เยาวราช จำง่ายๆ หน้าร้านทองจินฮั่วเฮง เมนูเด็ด กวยจั๊บน้ำใส ขายมากว่า 30 ปี ราคา 30-50 บาท ขายวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ เวลา18.00-02.00 น.
28.ข้าวพระรามลงสรง
เป็นร้านไม่มีชื่อ แต่อยู่ที่ต้นซอยไพบูลย์ต่อกับซอยผลิตผล เมนูเด็ด ข้าวพระรามลงสรง ซึ่งปัจจุบันหากินอร่อยๆ ยาก ราคา 25-30 บาท เปิด 08.00-16.00 น.โทร.0-2215-9930
29.ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเม้ง
ซอยไพบูลย์สมบัติ เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเย็นตาโฟ เครื่องเคราครบครัน ซดแล้วชื่นใจ ราคา 25-30 บาท เปิด 08.00-14.00 น.โทร.0-6997-7447
30.แต้เล่าจิ้นเส็ง ถนนเยาวพานิช
เมนูเด็ด ขนมเปี๊ยะ ขนมจันอับ หอม หวาน อร่อย ราคาตั้งแต่ 6 บาทขึ้นไป เปิด 09.00-19.30 น. โทร.0-2224-2142
31.ตั้งใจอยู่ ถนนเยาวพานิช
หัวมุมถนนพาดสาย ภัตตาคารเก่าแก่และชื่อแปลก เมนูเด็ด อื่อแซ ขาห่านอบพะโล้ ปลากระบอกจีนแช่เย็น เปิด 10.00-14.30 น., 17.00-22.00 น.โทร.0-2224-2167
32.ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร ถนนเยาวพานิช
แยกหัวมุมถนนพาดสาย ชั้น 2 ของภัตตาคารตั้งใจอยู่ เป็นอาหารจีนแต้จิ๋วขายมากว่า 70 ปี เมนูเด็ด ปลาดิบจีน ซึ่งต่างจากปลาดิบญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง และ ซ่งฮื้อหม้อไฟ เปิดทุกวัน 11.00-14.30 น. และ 17.00-23.00 น.โทร.0-2224-2205
33.ข้าวแกงกะหรี่อั่งม้อ ถนนพาดสาย

ข้างภัตตาคารตั้งใจอยู่ เป็นแกงกะหรี่สไตล์จีน ที่ขายมากว่า 40 ปี เมนูเด็ด ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ แกงเผ็ดปลาช่อน ราคา 20-30 บาท เปิด 06.00-15.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-2467-3292
34.นิวกวงเม้ง ถนนพาดสาย
เยื้องภัตตาคารตั้งใจอยู่ เมนูเด็ด ฮื่อแซ ขาห่านอบหม้อดิน หูฉลาม จานละ 100 บาทขึ้นไป เปิด 11.00-14.00 น., 17.00-22.00 น.โทร.0-2224-2201
35.เล่าลี่หูฉลาม ต้นถนนผดุงด้าว
ถนนเยาวราช ฝั่งขวา ใกล้ร้านทองสุพรรณ เมนูเด็ด หูฉลาม ราคา 300 บาท โทร.0-2223-0325, 0-2223-7341 เปิด 11.00-24.00 น.
36.ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อเท็กซัส
เลขที่ 36 ตรอกไทร ถนนผดุงด้าว ตรงข้ามโรงแรมไชน่า ทาวน์ ขายมากว่า 45 ปี เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อน้ำใส ซึ่งต้องกินกับน้ำส้มพริกตำและเส้นหมี่ขาว ราคา 25-30 บาท เปิดทุกวัน 11.00-23.00 น. โทร.0-2225-3203
37.หอยทอดตรอกไทร ในตรอกไทร ถนนผดุงด้าว (หลังร้านแต้ป้อฮวด)
ขายมากว่า 60 ปี บางคนเรียกว่า ร้านชลพร เมนูเด็ด หอยทอด ออส่วน ขนมหัวผักกาด ราคา 30-80 บาท เปิด 10.00-18.00 น.โทร.0-2221-3050
38.เล่าตั้งลือชื่อห่านพะโล้ ถนนเยาวราช
ฝั่งขวามือ ใกล้โรงเรียนสอนตัดเสื้อพรทิพย์ ขายมากว่า 20 ปีเมนูเด็ด ห่านพะโล้ เนื้อนุ่ม แน่น หอมเครื่องยาจีน จานละ 50-300 บาท เปิด 08.00-15.00 น. โทร.0-2221-6070
39.อ้วนเกาเหลาเลือดหมู ถนนเยาวราช
ฝั่งซ้ายมือ หัวมุมถนนผดุงด้าว ตรงข้ามบริษัทเมืองทอง เมนูเด็ด เกาเหลาเลือดหมู ซดร้อนๆ หรือกินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก ราคา 40-50 บาท โทร.0-6321-4311 เปิด 19.00-04.00 น.
40.นายอั้งเก่าทรงวาด ถนนเยาวราช
ฝั่งซ้าย ใกล้ร้านทองโซวเซ่งเฮง เมนูเด็ด บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ราคา 30 บาท เปิด 17.30-23.30 น. (หยุดวันพุธ) โทร.0-6008-7907
41.เอ็กเต็งผู่กี่ ถนนพาดสาย ใกล้ทางออกถนนทรงสวัสดิ์
เมนูเด็ด เครื่องดื่ม ขนมปังปิ้ง ราคา 10 บาท ขนมปังสังขยา 12 บาท เปิด 03.30-21.30 น. โทร.0-2221-4484
42.เอี๊ยะแซ ถนนพาดสาย หัวมุมถนนตัดกับถนนผดุงด้าว
ร้านกาแฟอายุกว่า 100 ปี เมนูเด็ด กาแฟร้อน-เย็น และ ขนมปังปิ้ง เปิด 05.00-22.00 น.โทร.0-1573-3388 43.เจริญพร จึงอังลัก ถนนทรงสวัสดิ์
ใกล้ห้าแยกพลับพลาไชย หรือร้านเจริญพร เมนูเด็ด หมูสะเต๊ะ ข้าวพระรามลงสรง เปิด 10.00-22.00 น.โทร.0-2225-9226
44.ลอดช่องสิงคโปร์ สามแยกเจริญกรุง
ตรงข้าม ธ.เอเชียขายมากว่า 50 ปี เป็นร้านแรกที่ขายลอดช่องสิงคโปร์ในเมืองไทย เมนูเด็ด ลอดช่องสิงคโปร์ เปิด 11.00-22.00 น. (หยุดวันพฤหัสบดี) โทร.0-2221-5794
45.ก๋วยจั๊บน้ำข้นเฮียจั๊ว ถนนจักรวรรดิ
(ตรอกข้าง ธ.กรุงศรีอยุธยา) ขายมากว่า 30 ปี เมนูเด็ด กวยจั๊บน้ำข้น ความพิเศษอยู่ที่หนังหมูต้มพะโล้ ราคา 20 บาท เปิด 07.00-16.00 น. โทร.0-2223-6347
46.ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายย้ง
ถนนทรงวาด ระหว่าง ซ.อาเนี้ยเก็งกับ ถ.มังกร เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ราคา 30-40 บาท เปิด 17.00-22.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-1835-6261
47.อุไร ถนนทรงวาด ตรงข้าม ธ.เอเชีย ถ.ทรงวาด

เมนูเด็ด ห่านพะโล้ เนื้อนุ่ม น้ำซุปหอม เข้มข้น ราคา 60-850 บาท เปิด 10.00-12.00 น. (หยุดวันพระจีน ขึ้น 1 ค่ำ และขึ้น 15 ค่ำ) โทร.0-2221-4413
48.ลิ้มเล่าซา ถนนทรงวาด
ด้านฝั่งเจ้าพระยา เลย ธ.เอเชียไปเล็กน้อย เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เหนียวหนุบหนับด้วยเนื้อปลา ราคา 30 บาท เปิด 19.00-23.00 น. โทร.0-1551-4936
49.ลิ้มเหล่าโหงว ถนนทรงสวัสดิ์
(หน้าบริษัทเจียไต๋) เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลานิ่มและกรอบ จนลูกค้าเรียกกันว่า “ลิ้มเหล่าโหงวลูกชิ้นปลากระโดดได้” เปิดทุกวัน 19.00-23.00 น. ราคา 20-50 บาท
50.สีมรกต ซอยสุกร 1 (ตรอกโรงหมูเก่า)
ถ.ตรีมิตร เข้าซอยไปราว 200 ม. เมนูเด็ด ข้าวหมูแดง หมูแดงชิ้นใหญ่มาก ไข่เป็นยางมะตูม ราคา 25-50 บาท เปิดทุกวัน 11.00-21.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-22365202
51.ชองกี่หมูสะเต๊ะ ซอยสุกร 1
(ตรอกโรงหมูเก่า) ถ.ตรีมิตร ขายมากว่า 65 ปี เมนูเด็ด หมูสะเต๊ะ ตับสะเต๊ะ เคยขึ้นโต๊ะรับแขกบ้านแขกเมืองเป็นประจำ จานละ 35-70 บาท เปิด 09.30-19.00 น. (วันจันทร์ปิด 14.00 น.) โทร.0-2639-6584
52.ตั้งจั๊วหลี ถนนข้าวหลาม ข้าง
ธ.เอเชีย เมนูเด็ด หัวปลาเผือก ออส่วน ปลาดิบจีนโบราณ ราคา 100 บาทขึ้นไป เปิด 11.00-22.00 น. โทร.0-2236-4873
53.กว้านสิ่วกี่ ถนนเจริญกรุง
ฝั่งซ้าย ก่อนถึง ซ.เจริญกรุง 20 เมนูเด็ด เป็ดย่าง ที่อร่อยมาก นอกนั้นยังมี บะหมี่เป็ดย่าง ติ่มซำ ขนมเปี๊ยะ เปิด 09.00-19.00 น. โทร.0-2234-6384
54.เป็ดตุ๋นเจ้าท่า ตลาดน้อย
หน้าวิทยาลัยสารพัดช่างเอี่ยมลออ ใกล้กรมเจ้าท่า เปิดมากว่า 25 ปี เมนูเด็ด เป็ดตุ๋น ไส้เป็ด ผัดซีอิ๊วไทย อย่างหลังนี้ไม่มีใครเหมือน ราคา 30-40 บาท เปิด 10.00-16.30 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-2233-2541 55.เผือกหิมะ (ไม่มีชื่อร้าน)
ซอยวานิช 2 ข้างกรมเจ้าท่า ไม่ไกลจากเป็ดตุ๋นเจ้าท่า เมนูเด็ด เผือกหิมะ ซึ่งปัจจุบันหากินยาก ราคาขีดละ 20 บาท เปิด 07.00-13.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.0-9259-3448
56.ด่านเต้งลี่ อาคารกาลหว่าร์ ชั้น 2
ถ.โยธา เมนูเด็ด สลัดเนื้อสัน กุ้งเผา กุ้งพล่า สตูลิ้นวัว ปลาทอด เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-19.30 น. โทร.0-2639-0196
57.เลิศรสโภชนา ปากซอยโยธา
ตลาดน้อย วัดกาลหว่าร์ กรมเจ้าท่า เมนูเด็ด ขาหมูเลิศรส แพะตุ๋นน้ำแดง มะระอบเต้าซี่ ขาไก่น้ำแดง เปิดทุกวัน 11.00-14.30 น. และ 17.00-23.00 น. โทร.0-2233-4529
58.จุ้ยก้วย (ไม่มีชื่อร้าน)
ซอยวานิช 2 ข้างห้างสรรพสินค้าริเวอร์ซิตี้ เมนูเด็ด จุ๋ยก้วย ขนมถ้วยจีนแต้จิ๋วที่กำลังจะสูญหายไป ราคา 20 บาท เปิด 09.00-13.00 น. (วันอาทิตย์เปิด 08.00 น.) โทร.0-2472-2297
59.เฮียชัย บะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง
ปากซอยวานิช 2 ข้างห้างสรรพสินค้าริเวอร์ซิตี้ ไม่ไกลจากร้านจุ๋ยก้วย เมนูเด็ด บะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง ราคา 20-40 บาท โทร.0-2234-5803 เปิด 11.00-16.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
60.นิวยืนยง ถนนลำพูนไชย (ทรงสวัสดิ์)
ขายมากว่า 60 ปี เมนูเด็ด บะหมี่ลูกชิ้นปลา เส้นหมี่เหนียวนุ่ม น้ำซุปหอมหวาน ราคา 30-35 บาท เปิดทุกวัน 08.00-20.00 น. โทร.0-22244212
61.ขนมจีบทรงวาด เจ้าของชื่ออาเหลียง
เข็นรถขายอยู่แถวถนนทรงวาด เรื่อยไปจนถึงท่าน้ำสวัสดี ขายคู่กับถนนทรงวาดมากว่า 60 ปี เอกลักษณ์สำคัญคือเสียงตะโกน “เสียวบี่ ยัวะยั่ว” แปลเป็นไทยว่า “ขนมจีบร้อนๆ มาแล้วจ้า...”เป็นขนมจีบแต้จิ๋วใช้เนื้อหมูล้วน ขณะที่ลูกสะใภ้อาเหลียงตั้งร้านขายอยู่หน้าร้านเซเว่นฯ หัวมุมถนนทรงวาด เวลา 17.00 เป็นต้นไป โทร.0-22238853
62.ข้าวต้มซี่โครงหมู ปากซอยเจริญกรุง 16
หน้าร้านทองยู่หลงกิมกี่ ขายมาหลายสิบปี เมนูเด็ด ข้าวต้มซี่โครงหมู ที่ต้มด้วยเตาถ่าน กินกับปาท่องโก๋ตัวโต ขายวันอังคาร - เสาร์ เวลา 21.00-02.00 น.
63.ข้าวมันไก่กวนอู ซอยอิศรานุภาพ
ปากทางเข้าตลาดเก่าเยาวราช ขายมากว่า 20 ปี เมนูเด็ด ข้าวมันไก่ ซึ่งใช้ไก่เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าของร้าน รสชาติต่างจากไก่ทั่วไป เปิดทุกวันเวลา 06.00-12.30 น.
64.ตั้งจิวหลง ถนนพาดสาย
หลังเทียนกัวเทียน หน้าร้านมีรูปวาดไก่ดำ ขายอาหารตุ๋นสไตล์ฮกเกี้ยนบำรุงสุขภาพสารพัดมากว่า 40 ปี เมนูเด็ด ไก่ดำตุ๋นยาจีน เปิดเวลา 09.00-18.00 น.หยุดอาทิตย์วันเดียว โทร.0-16141784
65.ก๋วยเตี๋ยวเจ๊ปุ้ย ถนนไมตรีจิตต์
ก่อนถึงห้าแยกพลับพลาไชย ราว 20 เมตรฝั่งตรงข้ามเป็นวัดพลับพลาไชยและหอยกระทะนายโซว เมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ฮื่อก้วย และ ลูกชิ้นปลา เปิดทุกวัน ประมาณ 09.00-17.00 น. (หยุดวันพุธและอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) โทร.0-2 224-4351
66.นายฮี้ ถนนตรีมิตร ซอยสุกร 1
ใกล้ๆ กันมี 2 ร้าน ร้านแรก “นายฮี้” เมนูแนะนำ กุยช่ายไส้เผือก ไส้หน่อไม้ ไส้มันแกว เปิดทุกวัน (หยุดเฉพาะเทศกาลไหว้เจ้า) เวลา 12.30-15.00 น.หรือจนกว่าจะหมด โทร.0-28913239 ใกล้ๆ กันมีร้าน “เบ๊ซุ่นหลี” ขาย ขนมตุ๊บตั๊บ คอห่าน และ งาพอง อร่อยมาก ขาย 07.30-20.30 น.ทุกวัน โทร.0-22361001
ที่จอดรถ
การเดินทางไปเยาวราชตลอดจนบริเวณใกล้เคียง ด้วยรถโดยสารสาธารณะจะสะดวกที่สุด แต่ถ้านำรถส่วนตัวไปจะหาที่จอดยาก ที่จอดรถดังต่อไปนี้สามารถช่วยได้ แต่ต้องเสียค่าจอด ควรสอบถามให้ชัดเจน
1.ถ.เยาวราช ฝั่งซ้าย จอดได้ฟรีตั้งแต่เวลา 20.00-06.00 น.
2.โอเดียนพลาซ่า ใกล้วงเวียนซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ตลอด 24 ชม.
3.โรงแรมไวท์ ออร์คิด ถ.เยาวราช ตลอด 24 ชม.
4.โรงแรมแกรนด์ ไชน่า สี่แยกราชวงศ์ ตลอด 24 ชม.
5.วัดสัมพันธวงศ์ ถ.ทรงสวัสดิ์ ตลอด 24 ชม.
6.อาคารฮั่วเซ่งเฮง ถ.เยาวพานิช ตลอด 24 ชม.
7.สมาคมฮากกา ถ.พาดสาย เวลา 06.00-22.00 น.
8.ที่จอดรถคาเธย์ ถ.เยาวราช ตลอด 24 ชม.
9.อาคารกาญจนทัต ถ.เยาวราช ตลอด 24 ชม.
10.วัดจักรวรรดิราชาวาส ถ.จักรวรรดิ ตลอด 24 ชม.
11.วัดชัยชนะสงคราม (วัดตึก) ตลอด 24 ชม.
12.เท็กซัสสุกี้ ถ.ผดุงด้าว ตลอด 24 ชม.
13.ไชน่าทาวเวอร์ ถ.มังกร เวลา 06.00-21.00 น.
14.โรงหนังเฉลิมบุรีเก่า ถ.ทรงสวัสดิ์ เวลา 05.00-24.00 น.
15.วัดชัยภูมิการาม ถ.เยาวพานิช ตลอด 24 ชม.
16.ถ.พาดสาย เป็นที่จอดรถ กทม.มีเจ้าหน้าที่เดินเก็บค่าจอด

"มะกะโรนีคั่วไก่"


ส่วนผสม
-มะกะโรนีข้องอต้มสุก 250 กรัม
- เนื้อไก่หั่น 100 กรัม
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
- หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
-มะเขือเทศหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ผล
-ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
-น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ
1. ต้มมะกะโรนีให้สุก ขณะต้มให้ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยและหมั่นคนไม่ให้ติดก้นหม้อ พักไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่ไก่ ไข่และหอมใหญ่ ผัดให้แห้ง
3. ใส่มะกะโรนี และปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรสอาหาร น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน





"ผักกะเฉดผัดน้ำมันหอย"


“ผักกะเฉดผัดน้ำมันหอย”
แทนซึ่งหน้าร้อนแบบนี้ ผักกะเฉดมีสรรพคุณช่วยคลายร้อนได้ด้วย เพราะมีรสเย็น ช่วยบรรเทาความร้อน ใช้ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ได้ดีนัก ทั้งยังช่วยบำรุงกระดูก เนื่องจากมีแคลเซียมค่อนมากอีกด้วยส่วนผสมผักกระเฉดเด็ดหรือหั่นเป็นท่อนสั้นๆพอประมาณกระเทียมกลีบเล็กทุบพอบุบ 10 กลีบพริกขี้หนูทุบพอบุบ 3 เม็ดน้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย 1 ช้อนชาน้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่า 6 ช้อนโต๊ะวิธีทำ
เมื่อได้ส่วนผสมทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงกรรมวิธีการทำกันบ้าง เริ่มจากตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปรอจนไฟเดือดเสียก่อน(จะรู้ได้อย่างไรว่ากระทะเดือดแล้ว ก็รอจนควันขึ้นนั้นล่ะ)จากนั้นนำผักกะเฉดที่หั่นเป็นท่อนๆแล้วใส่ลงไปในกระทะ ตามด้วยกระเทียม พริกขี้หนู น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า เวลาผัดพลิกตะหลิวแค่ 3-4 ที ผัดจะสลดก็สามารถปิดเตาได้แล้ว ผัดนานกว่านั้นผักจะเหนียว เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟคู่ข้าวสวยร้อนๆและข้าวต้มเปล่าๆสักถ้วยก็ได้แล้ว

"หมูทอดเต้าหู้ยี้"


เครื่องปรุง
- สะโพกหมูหั่นเป็นชิ้น 500 กรัม
- ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเต้าหู้ยี้ 2 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนชา
- แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
- น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1.ในชามผสมใส่ขิงสับ กระเทียมสับ น้ำเต้าหู้ยี้ เหล้าจีน ผสมให้เข้ากัน
2.นำหมูลงไปหมักในน้ำหมัก ใส่น้ำมันงาลงไปคลุกให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ในอุณหภูมิของห้อง
3.นำกระทะหัวม้าลาย ใส่น้ำมันตั้งไฟให้ร้อน นำหมูที่หมักไว้ลงนาบกับแป้งสาลีให้ทั่ว แล้วทอดให้หมูสุกเหลืองตักออกจัดใส่จานเสิร์ฟราดด้วยซอสเต้าหู้ยี้ และข้าวสวยร้อน ๆ
เครื่องปรุงซอส
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้ยี้บดพร้อมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยซินเจีย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
- พริกขี้หนูแห้งหั่นหยาบ สำหรับแต่งหน้า
- ต้นหอมซอย สำหรับแต่งหน้า
- กระเทียมเจียว สำหรับแต่งหน้า
- น้ำมันพืช พอประมาณ
วิธีทำ
1.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมสับ ขิงสับ ผัดพอหอม
2.ใส่เต้าหู้ยี้ ซอสหอยซินเจีย น้ำมันหอย น้ำตาลและน้ำลงไป ผัดให้เข้ากัน ชิมรส เค็ม หวานตามต้องการ
3.นำซอสที่ได้ราดไปบนหมูทอด หรือจะนำหมูทอดลงไปคลุกในกระทะก็ได้
4.จัดหมูใส่จาน แต่งหน้าด้วยพริกขี้หนูแห้งหั่นหยาบ ต้นหอมซอย และกระเทียมเจียว เสิร์ฟร้อน ๆ กับข้าวคำหอม


วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"ข้าวผัดนพเก้า"


ข้าวผัดนพเก้า
เวลาเตรียม 10 นาที เวลาปรุง 10 นาที
ส่วนผสม
-ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับผัด 1-2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ 1 ฟอง
- เต้าหู้
-แครอท
-เผือก
-มันเทศ
-ฟักทอง
- หอมหัวใหญ่
- เห็ดหอมแห้งหรือสด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กเท่ากันและลวกให้พอสุกอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ
-ถั่วแดงต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาวประมาณ 2 ช้อนชา
- เกลือ
-พริกไทยอย่างละเล็กน้อย
วิธีทำ
ตีไข่พอให้แตกแล้วเทลงในน้ำมันร้อน พอไข่เริ่มตึงใส่ข้าวลงผัดแล้วจึงใส่ผักที่ลวกไว้ ถั่วแดง ผัดให้เข้ากัน ใส่ซีอิ้วและเกลือผัดจนข้าวสุกหอมแห้ง ตักใส่จานโรยพริกไทยเล็กน้อย


"ไข่เจียวใบตอง"


-เวลาเตรียม 5 นาที
- เวลาปรุง 7 นาที
ส่วนผสม
-ไข่ไก่หรือไข่เป็ด 3 ฟอง
- หอมเล็กซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- แครอทขูดฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาและซีอิ้วอย่างละ 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่นเล็กน้อย
- แครอทขูดและใบโหระพาซอย สำหรับโรยหน้า
- ใบตองสดประมาณ 4 แผ่นใหญ่
วิธีทำ
1. ตอกไข่ใส่ชาม ใส่หอมเล็ก แครอท ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้ว พริกไทย ตีให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำในกระทะประมาณ 2/3 ถ้วย (ให้พอปริ่มๆ ใบตอง เมื่อไข่สุกน้ำในกระทะต้องไม่แห้งจนกระทะไหม้) วางใบตองสองแผ่น แล้วเทไข่ลงบนใบตอง โรยหน้าด้วยแครอทและใบโหระพาซอย ปิดด้วยใบตองสองแผ่นที่เหลือ แล้วปิดฝากระทะตั้งไฟนานประมาณ 7-10 นาที จนไข่สุก จะเสิร์ฟบนใบตองหรือจัดใส่จานก็ได้


"ข้าวต้มปลาเกาะกง"


เครื่องปรุง
-น้ำซุปข้าวต้มซีฟู้ด
1.กระดูกซี่โครงหมู 1 กิโลกรัม
2.รากผักชี 4 ราก
3.พริกไทยเม็ดตรามือโขลกหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
4.เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำเครื่องปรุงทุกอย่างใส่หม้อ เติมน้ำให้เต็มแล้วต้มเคี่ยวด้วยไฟกลาง 1 ชั่วโมง จะได้น้ำซุปข้าวต้มหอมรสกลมกล่อม ให้อุ่นร้อนไว้ตลอดเพื่อเติมในข้าวต้มวิธีต้มเนื้อปลาให้นุ่ม กุ้ง ปลาหมึกกรอบ และดับกลิ่นคาวนำขิงแก่หั่นซอยเป็นเส้น ต้นหอมหั่นเป็นชิ้นยาว ใส่ลงไปต้มกับน้ำสะอาดจนเดือดจัด จึงนำเนื้อปลากะพงที่หั่นเป็นชิ้นหนาใส่ลงไปลวกจนเนื้อปลาสุก รีบตักเนื้อปลาขึ้นมาพักไว้ เนื้อปลาจะไม่มีกลิ่นคาว หลังจากนั้นเติมน้ำปูนใสลงไปในน้ำเดิม 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำกุ้งและปลาหมึกสดลงไปลวกจนสุก จึงตักขึ้นมาพักไว้ จะทำให้เนื้อกุ้งและปลาหมึกกรอบอร่อยวิธีทำข้าวต้มใช้ข้าวหอมมะลิและข้าวเสาไห้อย่างละครึ่งหุงให้เป็นข้าวสวยนุ่ม แล้วลวกน้ำร้อนเพื่อล้างยางข้าวจึงตักใส่ชาม หยิบเนื้อปลา กุ้ง ปลาหมึก ใส่ตามต้องการ โรยด้วยพริกไทยป่น ตั้งไฉ่ ผักขึ้นไช่หั่นซอย ราดด้วยน้ำซุปที่เตรียมไว้ เป็นข้าวต้มซีฟู้ดที่ไม่มีกลิ่นคาว เนื้อปลา กุ้ง ปลาหมึก สดกรอบอร่อย

"ซุปซีฟู๊ดขมิ้น"

- เวลาเตรียม 1 1/2 ชั่วโมง (รวมเวลาต้มน้ำสต็อกปลา)
- เวลาปรุง 15 นาที
ส่วนผสม
-น้ำสต็อกปลา 4 1/2 ถ้วย
- ตะไคร้บุบ 2-3 ต้น
- ข่าบุบ 4-5 แว่น
- ขมิ้นบุบ 1 แง่งเล็ก
- ใบมะกรูด 2-3 ใบ
- กุ้งตัวเล็ก 1/2 ถ้วย
-ปลาหมึก หั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย
- เกลือ สำหรับปรุงรส
- น้ำมะนาว ตามชอบ
- ผักชี สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. ตั้งน้ำสต็อกปลาจนเดือดใส่ตะไคร้ ข่า ขมิ้น ใบมะกรูด ลงต้มใช้ไฟปานกลางนานประมาณ 3 นาที หรือจนกระทั่งมีกลิ่นหอมและขมิ้นออกสี จนได้สีเหลืองตามชอบ
2. กรองน้ำสต็อกนำมาตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง ใส่กุ้ง ปลาหมึก รอจนสุกปรุงรสด้วยเกลือ ตักใส่ถ้วยซุปเมื่อจะกินบีบมะนาวเล็กน้อย ตกแต่งด้วยผักชี ใบมะกรูด
ถ้าชอบรสเผ็ดเติมพริกขี้หนูได้ตามชอบ แต่ไม่ควรให้รสเผ็ดมาก


"กุ้งพันตะใคร้"


เป็นอาหารเวียดนามอีกแล้วค่ะ
ส่วนผสมสำหรับ 1–2 ที่
1 เนื้อกุ้งแกะ 200 กรัม
2 มันหมู 25 กรัม
3 เนื้อปลาขูด 150 กรัม
4 ไข่ไก่ 1 ฟอง
5 พริกไทย 1 ช้อนชา
6 น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7 กระเทียมสับ 20 กรัม
8 ตะไคร้ตำอย่างละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
9 น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
10 เกลือ 1/2 ช้อนชา
11 ต้นตะไคร้ 5–8 ต้น
12 น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1 ปั่นเนื้อปลากับมันหมู จนกระทั่งเนียนเข้ากัน ใส่เนื้อกุ้งลงตีผสม แล้วใส่เครื่องปรุงทั้งหมดตีต่อจนเข้ากันอีกเครั้ง
2 ปั้นเป็นก้อนกลมแบนตามชอบ นำแท่งตะไคร้เสียบตรงกลาง นำไปนึ่งนสุก จากนั้นนำไปทอดอีกครั้งจนสุกเหลืองตามชอบ เสิร์ฟพร้อมผักสด เส้นหมี่ และผักดอง เป็นอาหารเวียดนาม ลองทำดูนะคะ
ส่วนผสมสำหรับ 2–3 ที่
1 เนื้อสันในหั่นเส้นยาวพองาม 300 กรัม
2 ต้นตะไคร้ 7 ต้น
3 ข่าสับ 1 แง่ง
4 พริกขี้หนู 15 เม็ด
5 ลูกผักชี 2 ช้อนชา
6 ซอสปรุงรส ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำปลา น้ำมันงา อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ
7 หอมแดง ต้นหอมซอย รากผักชี กระเทียม น้ำตาลทราย น้ำมัน อย่างละ 50 กรัม
8 พริกไทยดำและเกลือตามชอบ
วิธีทำ
1 ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วนำไปหมักกับเนื้อ ทิ้งไว้ 30 นาที
2 นำไปพันกับต้นตะไคร้ แล้วนำไปย่างให้สุกตามชอบ เสิร์ฟพร้อมผักสด และน้ำจิ้มผักดอง

"มาม่า ผัดปลากระป๋อง "

เครื่องปรุง
-มาม่า 2 ห่อ ต้มให้นุ่ม แต่อย่าเละ ห้ามปรุงรส เทน้ำทิ้ง ตักพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
-ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง
-พริกขี้หนู 3-4 เม็ด ตบให้แตก (ถ้าชอบเผ็ด ใส่มากกว่านี้ก็ได้คะ)
- มะนาว 1 ชต.
-หอมแดงซอย 1 -2 หัว ( ไม่ชอบ ไม่ต้องใส่)
-ผักชี ไว้โรยหน้า
วิธีทำ
เทปลากระป๋อง ลงในกระทะ ใช้ไฟอ่อนๆ ใส่น้ำ 3 ชต. หรือกะว่าพอสำหรับเส้นมาม่า พอเริ่มเดือด เติมมะนาว + หอมแดง + พริกขี้หนู คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำมาม่าที่เราต้มไว้แล้ว ใส่ลงไป คลุกเคล้ากันสังเกตว่าน้ำซึมเข้าเส้นแล้วตักขึ้นคะ เวลาคลุกเส้น ระวังเนื้อปลาอย่าให้เละนะคะ จะไม่น่าทาน โรยผักชี

"กุ้งทอดแบบญี่ปุ่น"


ส่วนประกอบ
-กุ้งสด
-แป้งสาลี
-ขนมปังป่นแบบแห้ง
-ไข่ไก่ 1 ฟอง
วิธีทำ
1. นำกุ้งสดมาถอดเปลือกและดึงไส้สันหลังออก
2. ใช้มีดเล่เป็นบั้งๆรอบทั้ง 4 ทิศ
3. จับกุ้งที่บั้งยืด ๆ ให้ตัวตรง
4. ต่อจากนั้นก็เอากุ้งมาคลุกกับแป้งสาลี
5. เอากุ้งที่คลุกแป้งแล้ว ไปคลุกกับไข่ที่ตีไว้แล้ว และเอามาคลุกขนมปังป่น ช่วงที่คลุกขนมปังป่น ควรใช้อุ้งมือบีบให้ขนมปังเกาะกุ้งให้แน่น เพราะถ้าเคลุกเฉยๆ เวลาทอดกุ้งอาจโค้งงอได้
6. เมื่อคลุกเสร็จหมดแล้ว ทางที่ดีควรนำไปแช่เย็นก่อน เพราะเมื่อนำไปทอดเสร็จแล้วจะทำให้กรอบครับ
7. ทอดในขณะที่น้ำมันร้อนจัด (ทดสอบโดยการเอาขนมปังป่นโรยลงกะทะดูก่อน)
8. สังเกตุดูสีของกุ้งว่าเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงามแล้ว จากนั้นตักมาพักไว้ที่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมันก่อนลองทานกับน้ำจิ้มบ๊วยแบบที่กินกับทอดมันกุ้งดูค่ะ
ขอให้สนุกกับการทำนะคะ

"ปลาต้มเผือก"

เมนูปลาต้มเผือกถ้วยนี้จะกินกับข้าวสวยร้อนๆก็ได้ หรือกินเป็นซุปเฉยๆก็อิ่มอร่อยไม่แพ้กัน ส่วนรสชาตินั้นก็กลมกล่อมพอดี ไม่เค็มมาก แถมยังได้รสหวานของน้ำซุปจากแครอทและน้ำแช่เห็ดหอม นอกจากจะอิ่มท้องจากเผือกแล้ว ยังได้โปรตีนจากเนื้อปลาอีกด้วย
ส่วนผสม
- เนื้อปลากะพง 1/2 ตัว (แล่เอาแต่เนื้อ)
- ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงาสำหรับทอด
-เผือกตามชอบ
-แครอทตามชอบ
- เห็ดหอมตามชอบ
- รากผักชี 3 ราก
- กระเทียม 3 กลีบ
-ต้นหอม
- ขึ้นฉ่าย
-น้ำแช่เห็ดหอม
วิธีทำ
หั่นเนื้อปลากะพงเป็นชิ้นๆแล้วทอดด้วยน้ำมันงาให้เหลือง ตักขึ้นพักไว้ ต้มเผือกหรือนึ่งให้พอสุก หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ทำน้ำซุปด้วยน้ำแช่เห็ดหอม เมื่อน้ำเดือดแล้ว ใส่เห็ดหอมและแครอทลงไปพร้อมกัน จะได้น้ำซุปที่หวานยิ่งขึ้น ใส่เผือกนึ่งและเนื้อปลาทอดลงไปตามลำดับ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ใส่ขึ้นฉ่าย รากผักชีทุบ ต้นหอมหั่นท่อน และกระเทียมเป็นลำดับสุดท้าย ยกหม้อลง เพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงาประมาณ 3 หยด (ไม่ควรเหยาะมากเกินไป เพราะจะทำให้น้ำซุปมีความมัน)


"กุ้งผัดเนย"


เครื่องปรุง ส่วนผสม
1. กุ้งใหญ่
2. แครอท
3. หน่อไม้ฝรั่ง
4. ข้าวโพดอ่อน
5. เนยชนิดจืด
6. กระเทียม 4-5 กรีบ
7. เกลือ
8. พริกไทย
ลงมือเข้าครัว
1. ขั้นแรกก็ต้องนำกุ้งไปล้างให้สะอาด แกะเปลือก และผ่าหลัง เอาขี้กุ้งออกจนหมด จากนั้นนำขึ้นพักไว้
2. นำแครอท หน่อไม้ฝรั่ง และข้าวโพดอ่อน มาหั่นให้เป็นท่อน จากนั้นนำไปลวกในน้ำเดือด ก่อนที่จะตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น เพื่อทำให้ผักกรอบ ก่อนจะนำไปผัด
3. นำกระเทียมมาทุบก่อนที่จะสับหยาบๆ ตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อนจากนั้นนำเนยจืดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ตามด้วยกระเทียม ผัดให้หอม
4. เมื่อเริ่มได้กลิ่นหอมของกระเทียมแล้ว นำกุ้งลงไปผัดได้เลย เมื่อกุ้งใกล้ที่จะสุก ก็ใส่ผักที่แช่ไว้ในน้ำเย็นลงไป ผัดจนทุกอย่างเข้ากันดี สุดท้ายก็ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย
5. ชิมรสครั้งสุดท้าย ก่อนจะตักขึ้นใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ

"ยำดอกกุหลาบแดง"


ส่วนประกอบ
-ดอกกุหลาบแดง 2 ดอก
-หมูสับลวกสุก 1 ขีด
-กุ้งสดแกะแล้วลวกพอสุก 1 ขีด
-ตับหมูต้มหั่นบางๆ 1 ขีด
-เห็ดหูหนูสดลวกหั่น 1/2 ถ้วยตวง
-พริกขี้หนูสวนซอย 15 เม็ด
-หัวหอมแดงปอกเปลือกซอยบางๆ 10 หัว
-น้ำปลาดี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาน้ำ
-มะนาว 1 ผล
-ผักชีเด็ดเป็นใบ โรยหน้า
วิธีทำ
เอาดอกกุหลาบแดงมาเด็ดออกเป็นกลีบๆ ล้างน้ำให้สะอาด เลือกเอาเฉพาะกลีบดอกกุหลาบเท่านั้น เกษรและส่วนอื่นๆทิ้งไปเอาหมูสับ กุ้ง ตับหมู เห็ดหูหนู พริกขี้หนูสวน พร้อมหัวหอมแดงที่เตรียมไว้มารวมกันใส่กาละมังใบย่อมหรือหม้อใบเล็กเพื่อคลุกเคล้ายำตอนนี้มาถึงการปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำตาลทราย น้ำมะนาว แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ลองชิม และปรุงรสตามความชอบพอปรุงรสได้ที่แล้ว ก็เอากลีบดอกกุหลาบแดงโรยลงไปคลุกเคล้ากับเครื่องยำเบาๆ เพื่อไม่ให้กลีบดอกกุหลาบช้ำ สุดท้ายนำผักชีที่เตรียมไว้โรยหน้า เป็นอันเรียบร้อยคำเตือน ถ้าผู้รับ(ประทาน) ไม่นิยมความเผ็ด คุณก็ไม่ควรใส่พริกลงไปมากนัก เพราะไม่อย่างนั้นคำตอบจาก Say “ Yes “จะกลายเป็น Say “ No “ ไม่รู้ด้วยนะค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"ไก่อบน้ำผึ้ง"


เครื่องปรุง
- ไก่ขนาด 1 ½ กิโลกรัม 1 ตัว
-เกลือป่น 1 ½ ช้อนโต๊ะ
-พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
-กระเทียม 5 หัว
-รากผักชี 5 ราก
-ผงรสทิพ 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำผึ้ง 5 ช้อนโต๊ะ
-ซีอิ้วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ทำความสะอาดไก่ข้างในและข้างนอกให้สะอาด แล้วใช้กระดาษซับน้ำให้แห้งโขลกพริกไทยดำ กระเทียมให้ละเอียดรวมกับรากผักชี 5 ราก โขลกเข้าด้วยกัน แบ่งครึ่งส่วนทาตัวไก่ และอีกครึ่งหนึ่งใส่เข้าไปในท้องไก่พร้อมกับทาเกลือป่นให้ทั่วตัวไก่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงผสมน้ำผึ้งรวมกับซีอิ้วดำ ใช้แปรงจุ่มทาทั่วตัวไก่พักเอาไว้ให้แห้งแล้วทาซ้ำจนหมดจัดวางบนตะแกรงเหล็กสูงพร้อมมีจานรองและหมุนปุ่มบนสุดไปที่รูปไก่แล้วเลือกโปรแกรมไมโครเวฟ + ย่าง แล้วกด M เลือกน้ำหนัก 1,200 – 1,500 กรัม ซึ่งเวลาในการปรุงอาหารได้มีการคำนวณอัตโนมัติแล้ว และกด เพื่อเริ่มการปรุงอาหาร ครบเวลาประมาณ 15 นาที ให้พลิกกลับด้าน แล้วต่อเวลาที่เหลือจนหมด หากต้องการให้เกรียมมากกว่านี้เพิ่มเวลาตามต้องการ เสร็จแล้วพร้อมยกขึ้นเสริฟได้

"ข้าวมันไก่"


เครื่องปรุง
1. ข้าวสาร 3 ส่วน
2. ข้าวเหนียว 1 ส่วน
3. กระเทียมปอกเปลือก สับหยาบ ๆ
4. ขิงแก่ 6-7 แว่น
5. น้ำซุปไก่
6. น้ำมันไก่ หรือน้ำมันพืช
7. เกลือป่น
8. ใบเตยข้าวมัน -
วิธีทำ
1. ผสมข้าวเหนียวกับข้าวสารเข้าด้วยกัน นำไปซาวสัก 2-3 น้ำให้สะอาด แล้วใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันไก่ลงไป พอน้ำมันอุ่นๆ ใส่กระเทียมลงไปเจียวเลยค่ะ
3. พอกระเทียมมีกลิ่นหอม (ไม่ต้องรอเหลือง) ก็ใส่ขิงแก่ที่เราหั่นแว่นแล้วลงไป เจียวรวมด้วย
4. พอได้กลิ่นขิง ก็ใส่ข้าวลงไปเลยค่ะ แล้วตักน้ำซุปเติมลงไปสักหน่อย กะว่าพอดีปริ่ม ๆ ข้าว
5. จากนั้นผัดให้แห้งนะคะ แต่ไม่ต้องแห้งมากอ่ะ
6. ตักใส่หม้อหุงข้าว เติมน้ำซุปไก่ลงไป เติมเกลือนิดหน่อย คน ๆ ให้เข้ากัน แล้วก็อย่าลืม เอาใบเตยมัด ๆ ใส่ลงไปด้วยนะคะ จากนั้นก็หุงตามปกติป.ล. น้ำซุปไก่ที่ใส่ทีหลัง ให้ใส่น้อยกว่าตอนหุงข้าวปกติ เพราะข้าวได้สุกบ้างแล้วอ่าค่ะน้ำจิ้มข้าวมันไก่ -
วัตถุดิบ
1. ขิงแก่สับละเอียด
2. กระเทียมสับละเอียด
3. พริกขี้หนูสับละเอียด
4. รากผักชี + ต้นผักชี สับละเอียด
5. น้ำส้มสายชูหมัก
6. น้ำตาลทรายขาว
7. น้ำซุป
8. เต้าเจี้ยวดำ บดละเอียด
9. ซีอิ๊วขาว
10. ซีอิ๊วดำ
น้ำจิ้มข้าวมันไก่ - วิธีทำ
ผสมทุกอย่างรวมกัน ชิมรสตามชอบเลยค่ะน้ำซุป -
วัตถุดิบ
1. โครงไก่ (พิมใช้โครงไก่ต้มน้ำซุป เพราะว่าไม่ได้ใช้ไก่ทั้งตัวอ่ะค่ะ)
2. รากผักชี + ต้นผักชี
3. เกลือป่น
4. ฟัก หรือ หัวไชเท้า หรือ มะระ
5. ใบเตยน้ำซุป -
วิธีทำ
1. ล้างโครงไก่ให้สะอาด ควักพวกปอด เครื่องในที่จะทำให้มีกลิ่นออกมาให้หมด แล้วเอาใบเตย 4-5 ใบมัดๆ ยัดเข้าในท้อง แล้วใส่ถุง แช่ตู้เย็น ทิ้งไว้ 1 คืนค่ะ (หรือจะไม่แช่ทิ้งไว้ ทำเลยก็ได้)
2. พอวันรุ่งขึ้น ตั้งน้ำให้เดือด เอาใบเตยออกจากตัวไก่ พอน้ำเดือด นำไก่ลงลวกสักแป๊บ ก็เทน้ำทิ้งค่ะ
3. ตั้งน้ำที่จะใช้ต้มน้ำซุป พอน้ำเดือด ใส่โครงไก่ลงไปค่ะ ตามด้วยรากผักชีทุบ ๆ ต้นผักชี เกลือ และใบเตย4. พอน้ำเดือดอีกทีก็ใส่หัวไชเท้าหรือผักต่าง ๆ ที่ชอบลงไป ใช้ไฟอ่อน น้ำซุปจะได้ใสนะคะ ระหว่างนี้มันคอยช้อนฟองที่ลอยอยู่ผิวน้ำทิ้งด้วยค่ะ
5. ต้มเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำซุปออกรสหวาน หอมจากไก่และผักตามต้องการ เค็มนิด ๆ ก็ใช้ได้อ่าค่ะ เนื้อไก่ วัตถุดิบ
จะใช้ไก่ตัว หรือไก่ชิ้นก็ได้ค่ะ จะเป็นไก่บ้าน หรือว่าไก่ตอน หรือไก่ธรรมดาก็ได้ค่ะ ตามใจชอบเลย .... แต่วันนี้บ้านพิมใช้ไก่ชิ้น (สะโพก+น่อง) น่ะค่ะ

"ทอดมันกุ้ง "

เครื่องปรุง
-กุ้งชีแฮ้ หรือกุ้งกุลาดำ 2 กิโลกรัม
-มันหมูแข็งหั่น 2 ขีด
-แป้งสาลี 2 + 1/ 2 ถ้วย
-เกล็ดขนมปังป่น 2 ถ้วย
-เกลือป่น 2 ช้อนชา
-ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. ล้างกุ้งให้สะอาด เด็ดหัวเด็ดหาง ผ่าหลังชักเส้นสีดำออก แล้วบดรวมกับมันหมูแข็งให้ละเอียด
2. เคล้าเนื้อกุ้งที่บดรวมกับมันหมูแล้ว กับแป้งสาลี เกลือ พริกไทย ซีอิ้วขาว นวดให้เหนียวดี
3. นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ กดให้แบน แล้วนำไปเกลือกในเกล็ดขนมปังป่น พักไว้สักครู่ในตู้เย็น จากนั้นจึงนำไปทอด เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศหั่น สับปะรดหั่น รับประทานกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย



"หมูพะโล้ใส่ไข่"


เครื่องปรุง
- หมูสันนอก 2 ขีด
- ไข่ 2 ฟอง
- น้ำตาลปี๊บ
- พริกไทย
-กระเทียม
-รากผักชี
- เครื่องพะโล้แบบผง และแบบไม้ อย่างละซอง
-ซีอิ๊วขาว
-ซีอิ๊วดำ
-น้ำมันพืช
วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยให้แหลกพอหยาบๆ
2. ต้มไข่ให้สุกปอกเปลือกใส่ซีอิ๊วดำคลุกให้ทั่ว พักไว้ หั่นหมูเป็นชิ้นใหญ่ๆ
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน นำรากผักชีที่โขลกไว้ลงผัดพอหอม ใส่น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว เคี่ยวจนน้ำตาลออกสีเข้ม นำหมูลงผัดพอสุก
4. เทใส่หม้อ ใส่น้ำจนท่วมหมู ใส่ไข่ เครื่องพะโล้ ( ไม่ต้องใส่หมด ) เคี่ยวไฟอ่อนๆ ทานกับผักกาดแก้ว แตงกวา กระเทียมสด พริกขี้หนู

"ปลาหมึกผัดไข่เค็ม"

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
-ส่วนผสม
-ปลาหมึกบั้ง หั่นชิ้นใหญ่ 1 ถ้วย
-ไข่แดงเค็ม (ดิบ) 1 ลูก
-ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
-พริกไทย 1/4 ช้อนชา
-น้ำตาล 1 ช้อนชา
-น้ำซุป 1/4 ถ้วย
-ต้นหอมหั่นท่อน 1/4 ถ้วย
-น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบเล็กน้อย
วิธีทำ
1. ยีไข่แดงเค็มพอแตก
2. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน นำปลาหมึกลงผัด
3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาล พริกไทย และน้ำซุป
4. พอปลาหมึกสุกทั่ว เติมไข่แดงที่ยีไว้ ต้นหอม และพริกชี้ฟ้า
5. ผัดให้เข้ากัน เสิร์ฟขณะร้อน รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"ไข่เจียวปูอัด"


เครื่องปรุง
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-ปูอัด 50 กรัม
-ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา
-ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. หั่นปูอัดเป็นเส้น เตรียมไว้
2. ตอกไข่ใส่ชาม และตีให้ไข่พอแตก
3. เติมปูอัดที่หั่นเอาไว้ แล้วเติมเครื่องปรุง ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ตีให้เข้ากันอีกครั้ง
4. นำลงทอดในน้ำมันที่ปริมาณมาก และไฟค่อนข้างแรง เกลี่ยเนื้อปูอัดให้ทั่วทั้งแผ่นไข่
5. พอสุก นำจัดใส่จาน หมายเหตุ- ควรใช้กระดาษสำหรับซับน้ำมันรองจานก่อน เพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกิน- สามารถเติมต้นหอมและผักชีลงไปในไข่ที่

"ผัดพริกแกงไก่"




เครื่องปรุง
-เนื้ออกไก่ หั่นชิ้นพอคำ 150 กรัม
- พริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
-ถั่วฝักยาว 150 กรัม
-พริกชี้ฟ้า หั่นชิ้น 3 เม็ด
-ใบมะกรูดหั่นฝอย 4 ใบ
-กระเทียมสับ 1 หัว
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาล 2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะ ไฟปานกลาง เจียวกระเทียมให้พอหอม ใส่ไก่ที่หั่นไว้ลงผัดให้สุก เติมพริกแกงเผ็ดและน้ำสะอาดลงไปนิดหน่อย ผัดให้เข้ากัน (ควรชิมเพราะพริกแกงเผ็ดแต่ละแห่งมีความเผ็ดและความเค็มไม่เท่ากัน หากไม่เผ็ดพอให้เติมพริกแกงเพิ่ม)
2. เติมถั่วฝักยาวลงผัด แล้วเติมซีอิ๊วขาวและน้ำตาล ผัดให้เข้ากัน แล้วเติมพริกและใบมะกรูดหั่นฝอย ผัดพอเข้ากัน เสิร์ฟหมายเหตุ- ถ้าหากอยากให้มีรสเผ็ดของพริกชี้ฟ้าให้นำลงผัดกับกระเทียม- สามารถเติมน้ำลงไปอีกหากชอบรับประทานแบบขลุกขลิก และให้ชิมรสปรุงรสเพิ่ม